วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2556

ความจำที่หายไป (เมื่อสู่วัยชรา) : วิธีป้องกันโรคสมองเสื่อม



วิธีป้องกันโรคสมองเสื่อม
๑.      ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ช่วยกระตุ้น เบรนโกร็ธแฟคเตอร์ (btain growth factor) และขบวนการทั้งหมดในการผลิตเซลล์สมองใหม่
๒.      มีสังคม คนที่ไม่ติดต่อกับสังคมไม่ว่ากับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง มีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาด้านความจำสูงขึ้นกว่าคนที่ติดอยู่ในสังคมอย่างเหนียวแน่น
๓.      อาหารที่รับประทาน รับประทานผักและผลไม้ให้มากเข้าไว้ ดื่มน้ำชาเขียว และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้น เพื่อช่วยปกป้องสมองไม่ให้เกิดสนิม อาหารที่มีโอเมก้า-3 (ปลาแซลมอน, เทราท์, ทูน่า) เป็นอาหารที่ดีสำหรับสมองและความจำ
๔.     จัดการกับความเครียด เมื่อมีความเครียดสมองจะมีการหลั่ง คอร์ติโซล (cortisol) เข้าทำลายประสาทซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้มีปัญหาเรื่องความจำตามมา เมื่อมีความเครียดต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง จะรู้สึกว่ามีการจดจำอะไรบางอย่างได้ยากขึ้นกว่าเดิม
๕.     นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สมองมีการรวบรวมเรื่องราวและความจำใหม่ๆ เข้าไป แล้วสามารถเรียกกลับเอามาใช้ในภายหลังได้อย่างดีขึ้น การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้สมองสร้างสายใยประสาทในฮิปโปแคมปัสได้น้อยลง ทำให้มีปัญหาเรื่องความจำ สมาธิ และการตัดสินใจ
๖.      อย่าสูบบุหรี่ นอกจากการสูบบุหรี่จะเป็นการทำร้ายหลอดเลือดโดยตรงแล้ว ยังทำให้เกิดภาวะ stroke คือ หลอดเลือดตีบหรือแตกได้ หลอดเลือดที่ตีบแคบลงทำให้สมองได้รับออกซิเจนได้ไม่เพียงพอ
๗.     เดินเพื่อสู้โรคความจำเสื่อม นักวิจัยชี้ว่า การเดินสัปดาห์ละ ๖ – ๙ ไมล์ สามารถป้องกันเนื้อเยื่อสมองหดฝ่อตัวและความจำเสื่อมได้
สารอาหารเพื่อช่วยชะลอและป้องกันสมองเสื่อม
            วิตามิน บี นักวิจัยพบว่า วิตามิน บี ปริมาณสูงช่วยชะลอการหดตัวของเซลล์ประสาทได้ และช่วยชะลอการรุกคืบของโรคความจำเสื่อมได้ ซึ่งเป็นความหวังหนึ่งในการรักษาแบบปลอดภัยเพื่อช่วยชะลอโรคที่เกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ป่วยที่มีความจำเสื่อมอย่างอ่อนๆ เพราะมีระดับโฮโมซีสเตอีนสูง วิตามิน บี ทำให้ให้ระดับโฮโมซีสเตอีนในร่างกายลดลงได้
            โอเมก้า-3 นักวิจัยพบว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่พบได้ในปลาทะเล, เมล็ดพืชและถั่วต่างๆ สามารถทำให้ระดับโฮโมซีสเตอีนที่อันตรายในร่างกายลดลงได้ด้วยการไปลดความว่องไวในการทำงานของเอ็นไซม์ที่จำเป็นในการสร้างกรดอะมิโนตัวอันตรายนี้
            ฟลาโวนอยด์และแอนโธไซยานิดิน นักวิจัยพบว่า การรับประทานบลูเบอรี่และสตอรเบอรี่มากๆ จะช่วยชะลออาการความจำเสื่อมของสตรีวัยชราออกไปได้อีก 2.5 ปี การได้รับแอนโธไซยานิดิน และฟลาโวนอยด์ รวมหลายๆ ชนิด มีความสัมพันธ์ในการชะลอความรุนแรงของความจำเสื่อมที่จะนำไปสู่อัลไซเมอร์ในที่สุด
            เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว หนทางที่ดีที่สุด ก็คือการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ ...
11 กันยายน 2556

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น