วิธีป้องกันโรคสมองเสื่อม
๑. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ช่วยกระตุ้น เบรนโกร็ธแฟคเตอร์ (btain growth factor)
และขบวนการทั้งหมดในการผลิตเซลล์สมองใหม่
๒. มีสังคม
คนที่ไม่ติดต่อกับสังคมไม่ว่ากับครอบครัว หรือเพื่อนฝูง
มีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาด้านความจำสูงขึ้นกว่าคนที่ติดอยู่ในสังคมอย่างเหนียวแน่น
๓. อาหารที่รับประทาน
รับประทานผักและผลไม้ให้มากเข้าไว้ ดื่มน้ำชาเขียว
และอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระให้มากขึ้น เพื่อช่วยปกป้องสมองไม่ให้เกิดสนิม
อาหารที่มีโอเมก้า-3 (ปลาแซลมอน, เทราท์, ทูน่า)
เป็นอาหารที่ดีสำหรับสมองและความจำ
๔. จัดการกับความเครียด
เมื่อมีความเครียดสมองจะมีการหลั่ง คอร์ติโซล (cortisol)
เข้าทำลายประสาทซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้มีปัญหาเรื่องความจำตามมา
เมื่อมีความเครียดต่อเนื่องมาระยะหนึ่ง
จะรู้สึกว่ามีการจดจำอะไรบางอย่างได้ยากขึ้นกว่าเดิม
๕. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สมองมีการรวบรวมเรื่องราวและความจำใหม่ๆ
เข้าไป แล้วสามารถเรียกกลับเอามาใช้ในภายหลังได้อย่างดีขึ้น
การนอนหลับไม่เพียงพอทำให้สมองสร้างสายใยประสาทในฮิปโปแคมปัสได้น้อยลง
ทำให้มีปัญหาเรื่องความจำ สมาธิ และการตัดสินใจ
๖. อย่าสูบบุหรี่
นอกจากการสูบบุหรี่จะเป็นการทำร้ายหลอดเลือดโดยตรงแล้ว ยังทำให้เกิดภาวะ stroke
คือ หลอดเลือดตีบหรือแตกได้
หลอดเลือดที่ตีบแคบลงทำให้สมองได้รับออกซิเจนได้ไม่เพียงพอ
๗. เดินเพื่อสู้โรคความจำเสื่อม
นักวิจัยชี้ว่า การเดินสัปดาห์ละ ๖ – ๙ ไมล์
สามารถป้องกันเนื้อเยื่อสมองหดฝ่อตัวและความจำเสื่อมได้
สารอาหารเพื่อช่วยชะลอและป้องกันสมองเสื่อม
วิตามิน
บี นักวิจัยพบว่า วิตามิน บี ปริมาณสูงช่วยชะลอการหดตัวของเซลล์ประสาทได้
และช่วยชะลอการรุกคืบของโรคความจำเสื่อมได้
ซึ่งเป็นความหวังหนึ่งในการรักษาแบบปลอดภัยเพื่อช่วยชะลอโรคที่เกิดขึ้นมาแล้วกับผู้ป่วยที่มีความจำเสื่อมอย่างอ่อนๆ
เพราะมีระดับโฮโมซีสเตอีนสูง วิตามิน บี
ทำให้ให้ระดับโฮโมซีสเตอีนในร่างกายลดลงได้
โอเมก้า-3
นักวิจัยพบว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 ที่พบได้ในปลาทะเล, เมล็ดพืชและถั่วต่างๆ
สามารถทำให้ระดับโฮโมซีสเตอีนที่อันตรายในร่างกายลดลงได้ด้วยการไปลดความว่องไวในการทำงานของเอ็นไซม์ที่จำเป็นในการสร้างกรดอะมิโนตัวอันตรายนี้
ฟลาโวนอยด์และแอนโธไซยานิดิน
นักวิจัยพบว่า การรับประทานบลูเบอรี่และสตอรเบอรี่มากๆ
จะช่วยชะลออาการความจำเสื่อมของสตรีวัยชราออกไปได้อีก 2.5 ปี การได้รับแอนโธไซยานิดิน
และฟลาโวนอยด์ รวมหลายๆ ชนิด มีความสัมพันธ์ในการชะลอความรุนแรงของความจำเสื่อมที่จะนำไปสู่อัลไซเมอร์ในที่สุด
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว
หนทางที่ดีที่สุด ก็คือการป้องกันตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ ...
11 กันยายน 2556
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น